โจ้สปอร์ตไลท์ภูเก็ตแฉ5พื้นที่รีดส่วยแพง |
โจ้ สปอร์ตไลท์ ภูเก็ต' แฉ 5 พื้นที่ รีดส่วยแพง เดือนละ 8-12 ล้านบาท
---------------------
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร) จัดเสวนา"ขบวนการส่วยตำรวจไทย หายนะภัยของชาติและประชาชน! " ร่วมอภิปราย โดย นายธรรมรัตน์ สุวรรณโพธิศรี หรือโจ้ สปอร์ตไลท์ภูเก็ต พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการที่ถูกเรียกเก็บส่วย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และพ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ
---------------------
ทั้งนี้ นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า ตนนำหลักฐานเรื่องส่วยของ จ.ภูเก็ต มาร้องเรียนจเรตำรวจและนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาขบวนการจ่ายส่วยใน 5 พื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าได้มีการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจย้ายออกจากพื้นที่แล้ว ในอดีตที่ จ.ภูเก็ต มีการเก็บส่วยสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลา การขายของละเมิดลิขสิทธิ์ และแรงงานต่างด้าว โดยไม่กี่หน่วยลงไป และไม่เป็นเงินสูงเหมือนปัจจุบันซึ่งพื้นที่ละ 8-12 ล้านบาทต่อเดือน เช่น ที่ อ.ป่าตอง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต อ.สะเดา อ.ด่านนอก จ.สงขลา อ.ระนอง จ.ระนอง อีกทั้ง การซื้อขายตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจพื้นที่หนึ่ง เป็นเงิน 40 ล้านบาท เงินส่วยก็ได้ 7-8 ล้านบาท ถูกเก็บไว้เอง แต่หน่วยอื่นไม่ได้ จึงทำให้หน่วยอื่นต้องไปทำรายงาน แม้สภาวะเศรษฐกิจขึ้นๆลงๆ และจ.ภูเก็ตเป็นเมืองบริโภค อ่อนไหวกับสภาพการเงินประเทศ แต่สวนทางตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจที่ไม่มีลงตามเศรษฐกิจ มีแต่มาเก็บส่วยส่งไปเรื่อยๆ ซึ่งหนักขึ้นในช่วงปีนี้ ส่วยแรงงานต่างด้าวเป็นบ่อเกิดของการเรียกเก็บสินบนที่สำคัญมาก เนื่องจากกฎหมายมีความลักลั่น แรงงานต่างด้าวต้องมาทำใบอนุญาตการทำงาน จากที่เคยจ่ายเดือนละ1,000-1,500 บาท ตอนนี้เป็นคนละ 10,000 บาทต่อเดือน
---------------------
นายธรรมรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนนักลงทุนชาวต่างชาติต้องมาหาภรรยาคนไทยเพื่อให้เป็นนอมินี สำหรับคนขายของละเมิดลิขสิทธิต้องจ่ายส่วยเดือนละ 150,000 บาท และมีหลายหน่วยงานมาเรียกเก็บ สำหรับการซื้อขายตำแหน่ง สัมปทานพื้นที่ มีทุกแห่ง แต่ที่จ.ภูเก็ตเห็นชัด ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนตระหนักหน้าที่ของตัวเอง กรณีที่มีสถานบันเทิงล้อมมหาวิทยาลัยนั้น ขอถามว่าตำรวจทำอะไรอยู่ พลเมืองต้องปกป้องสิทธิตัวเองและสังคม เห็นบริบทของปัญหา อีกทั้งในประเด็นบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ ตนยืนยันว่ามีจริง ขอชวนให้ลงไปดูปัญหานี้ว่ามาทำลายเศรษฐกิจในจ.ภูเก็ต มากมายแค่ไหนแล้ว
---------------------
ด้านพ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า ตนอยากให้มีสปอรต์ไลท์ไทยแลนด์ภาคประชาชนลุกมาต่อสู้เรื่องส่วยสินบนซึ่งมีลักษณะองค์กรอาชาญากรรม กระทบประชาชนในทุกรูปแบบ อาทิ ส่วยทางหลวง รถบรรทุก คนตายปีละ 50,000 คน เสียค่าซ่อมถนนปีละ 600,000 ล้านบาท ส่วยลิขสิทธิ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ทำอะไรอยู่ สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าระบบการรักษากฎหมายใช้ไม่ได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไปทำผิดกฎหมายเอง และเกี่ยวข้องกับธุรกิจมากมาย
---------------------
#ส่วย #โจ้ #spotlight #phuketrecord #บันทึกภูเก็ต
กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
ความคิดเห็น: คำแนะนำ: HTML จะไม่ถูกแปลง!
ความนิยม: แย่ ดี
ป้อนรหัสในกล่องข้างล่างนี้: