เจ้าของคอนโดหรูชี้แจงแล้วเดอะพีค เรสซเดนซ์ได้มาถูกต้อง
เจ้าของคอนโดหรูชี้แจงแล้วเดอะพีค เรสซเดนซ์ได้มาถูกต้อง
กดเพื่อขยายขนาด
<b>Notice</b>: Undefined variable: j in <b>/home/phuketarts/domains/phuketrecord.com/public_html/catalog/view/theme/default/template/content/content.tpl</b> on line <b>103</b><b>Notice</b>: Undefined index:  in <b>/home/phuketarts/domains/phuketrecord.com/public_html/catalog/view/theme/default/template/content/content.tpl</b> on line <b>103</b>

เจ้าของคอนโดหรูชี้แจงแล้วเดอะพีค เรสซเดนซ์ได้มาถูกต้อง
----------
เจ้าของโครงการคอนโดหรูในพื้นที่กะตะ จ.ภูเก็ต "เดอะพีค เรสซเดนซ์" มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท แจงนส.3 ก.เนื้อที่ 17 ไร่เศษ ได้มาถูกต้องตามกฎหมายและยืนยันว่าอยู่นอกเขตป่าไม้ เดินหน้าสร้างต่อจนเสร็จส่งมอบลูกค้าแน่นอนในอีกปีครึ่ง ส่วนการฟ้องร้องเป็นเรื่องของเจ้าของที่ดินเดิม ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆทั้งส้ิน 
นายมนัสนันท์ นรารัตนวี กรรมการผู้จัดการบริษัทกะตะ บีช จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ กล่าวชี้แจง กรณีที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการบ้านกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รวมตัวกันแสดงสัญลักษณ์ด้วยการชูป้ายเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติโครงการก่อสร้างคอนโด โดยอ้างว่า เป็นพื้นที่ที่ศาลปกครอง จ.นครศรีธรรมราช เพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.เนื้อที่ 17 ไร่เศษ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา

ว่า ที่ดินแปลงของโครงการเป็นที่ดิน น.ส.3 ก. ซึ่งทางบริษัทมาซื้อที่ดินจากเจ้าของเดิม ซึ่งตนเป็นมือที่ 4 ที่มีการขายต่อๆ กันมา ซื้อมาในราคา 434 ล้านบาท ซื้อมาเมื่อปี 2560 หลังจากซื้อที่ดินแปลงนี้มาก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งเรื่องของการออกแบบ ขออนุญาตก่อสร้าง ทำเรื่องของการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตามขั้นตอน ต่อมา ภายหลังทราบว่าที่ดินแปลงนี้มีการฟ้องร้องกันอยู่ในศาลปกครอง จ.นครศรีธรรมราช เป็นเรื่องจริง ซึ่งเป็นการฟ้องร้องระหว่างเจ้าของที่ดินเดิม 2 ราย และศาลปกครองนครศรีธรรมราช ชั้นต้นได้ตัดสินว่าต้องเพิกถอนที่ดินแปลงนี้จริง หลังจากทราบว่ามีการเพิกถอนก็ได้มีการสอบถามไปยังทนาย และผู้ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่าสิทธิที่ดินแปลงนี้เป็นอย่างไร
โดยได้รับการยืนยันว่าสิทธิในที่ดินมีเหมือนเดิม แม้ว่าจะมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีการเพิกถอนแต่ขณะนี้ที่ดินแปลงนี้กำลังอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ที่ดินแปลงนี้ก็จะยังคงสภาพ น.ส.3 ก.ถูกต้องตามกฎหมายเหมือนเดิม ซึ่งการยื่นอุทธรณ์ ยังไม่ทราบว่าจะมีผลออกมาอย่างไร ที่ดินแปลงนี้จึงยังชอบธรรม ตนจึงต้องอาศัยกรอบกฎหมายที่ดินมีถูกต้อง จึงใช้ที่ดินที่ได้มาจากการซื้อขายที่ถูกต้องพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่อไป เนื่องจากซื้อที่ดินต่อมาเป็นบุคคลที่ 4 ส่วนคดีที่ฟ้องร้องกันนั้นมีมาก่อน ทางตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนเป็นคนสุดท้ายที่มาซื้อตอนหลัง กรณีข้อพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลยในคดีเดิม เราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ทราบเท่าที่คำพิพากษายังไม่สิ้นสุด ที่ดินแปลงนี้ก็ยังมีความชอบธรรมเหมือนเดิม

ส่วนประเด็นต่อมา ถ้ามาดูกันจริงๆ ผู้เสียหายที่แท้จริง คือตน ซึ่งเป็นมือที่ 4 ที่มาซื้อที่ดินแปลงดังดังกล่าว สิทธิในทางคดีเรายังมีเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าปลายทางแล้วผลจะออกมาอย่างไร สิทธิของเราก็ยังมีเหมือนเดิม เพราะเรายังไม่ได้เข้าไปสู่กระบวนการของคดี และมีสิทธิที่จะใช้กระบวนการทางกฎหมายในการฟ้องร้องหรือยื่นต่อศาลขอความเป็นธรรมและมีสิทธิที่จะนำเรื่องขึ้นสู่ศาลเพื่อขอให้ศาลพิจารณาใหม่ได้ ซึ่งกระบวนการนั้นเป็นกระบวนการที่ยังไปไม่ถึง
นายมนัสนันท์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ตนต้องออกมาชี้แจง ก็เพื่อทำความเข้าใจกับสังคม และลูกค้าที่ซื้อโครงการไปแล้ว เพราะสังคมและลูกค้าบางส่วนที่ซื้อมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนหลังเกิดข่าวขึ้นและไม่มั่นใจ คิดว่าโครงการไม่ถูกต้อง และไม่สร้างต่อ โดยตอนนี้ได้ทำความเข้าใจกับลูกค้าทั้งหมด และยืนยันว่าทางโครงการสร้างต่อแน่นอน ซึ่งตอนนี้ได้ขายโครงการไปทั้งหมดแล้วจำนวน 400 กว่ายูนิต และเหลือเพียง 3 ยูนิต ที่ไม่ขาย ส่วนการก่อสร้างโครงการมีความคืบหน้าไปแล้ว 70% ในส่วนของโครงสร้างอาคาร และคาดว่าจะส่งมอบให้ลูกค้าในภายใน 1 ปีครึ่งหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม อยากให้สังคมและลูกค้าเชื่อใจว่าทางโครงการดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้แต่เรื่องของที่ดินก็สามารถตรวจสอบได้ว่าที่ดินแปลงนี้ ไม่อยู่ในพื้นที่ป่าอย่างแน่นอน ซึ่งได้มีการตรวจสอบทุกขั้นตอน และไม่อยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำด้วย ซึ่งดูได้จากสภาพพื้นที่ ซึ่งไม่เห็นว่ามีป่าต้นน้ำในพื้นที่ ไม่มีลำรางอยู่ในที่ดิน และการได้ที่ดินแปลงนี้เราได้มาอย่างชอบธรรม และ อย่างที่ทราบที่ดินแปลงนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลไม่ควรที่จะเข้าไปชี้นำกระบวนการของศาล ตราบใดที่คำพิพากษาไม่ออกมาอย่าเพิ่งเร่งด่วนไปตัดสิน เพราะอาจจะไปส่งผลกระทบต่อบุคคลที่เป็นข้าราชการที่เกี่ยวข้องกันทางกฎหมาย ซึ่งมีการดำเนินการมาตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และยืนยันว่าสิทธิในที่ดินเรายังมีเหมือนเดิม ที่บุคคลที่ถูกกล่าวถึงถูกสังคมประณามไปแล้วทั้งๆ ที่การดำเนินโครงการทำตามกรอบกฎหมายอย่างชัดเจน
ตนเชื่อว่าตอนนี้โครงการนี้เป็นโครงการที่สังคมกำลังจับตามอง ถ้าตนทำอะไรผิดแม้แต่นิดเดียวเชื่อว่าผู้ที่จับจ้องจะต้องยกมาเป็นประเด็นเพื่อยับยั้งโครงการอย่างแน่นอน ซึ่งมาจนถึงวันนี้การที่หน่วยงานของรัฐยังไม่สั่งหยุดและอนุญาตให้ทำต่อไม่ใช่เพราะหน่วยงานของรัฐเข้ามาเอื้อ แต่เป็นเพราะโครงการทำถูกต้องทุกอย่าง และอยู่ในกรอบของกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถที่จะมาสั่งระงับได้ รวมถึงเรื่องความลาดชันไม่เกินจากที่กฎหมายกำหนด

สำหรับโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีมูลค่าโครงการ 21,000 ล้านบาท สร้างเป็นอาคารคอนโด 8 ตึก และ วิลล่าจำนวน 46 ยูนิต รวมทั้งหมด 435 ห้องชุด

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความคิดเห็น
1. โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
2. ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับ "บันทึกภูเก็ต" และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้
3. "บันทึกภูเก็ต" ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ต่อเจ้าของความคิดเห็น
เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นเป็นไปตามกฎกติกาที่วางไว้ "บันทึกภูเก็ต" ได้ปรับปรุงระบบการกรองคำให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:


ความคิดเห็น: คำแนะนำ: HTML จะไม่ถูกแปลง!

ความนิยม: แย่            ดี

ป้อนรหัสในกล่องข้างล่างนี้:

เจ้าของคอนโดหรูชี้แจงแล้วเดอะพีค เรสซเดนซ์ได้มาถูกต้อง
กดเพื่อขยายขนาด
เจ้าของคอนโดหรูชี้แจงแล้วเดอะพีค เรสซเดนซ์ได้มาถูกต้อง
กดเพื่อขยายขนาด